วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ล่องแก่งน้ำตกทีลอซู


การไหลของน้ำ (Gradient)

สามารถแยกได้เป็น 2 อย่าง คือ แก่ง (Rapid) ซึ่งน้ำจะไหลเร็วและแรงมาก แอ่ง (Pool) น้ำจะไหลช้าและมีความลึกมาก ปกติโดยทั่วไป บริเวณต้นแก่งน้ำ จะไหลเอื่อยและช้ากว่ากลางแก่ง หรือปลายแก่ง
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรรู้และนักล่องแก่งต้องคำนึงถึงก็คือ ความเร็วของกระแสน้ำใต้ผิวน้ำและระดับน้ำจะต่างกัน โดยช่วงต่ำ กว่าผิวน้ำลงไป กระแสน้ำจะค่อย ๆ ลดความเร็วลง
สำหรับความลาดเอียงของหินใต้น้ำ (River Bend) จะมีผลต่อความแรงของกระแสน้ำด้วย คือบริเวณที่ลึก น้ำจะไหล แรงกว่าบริเวณที่ตื้น และภายใต้กระแสน้ำอาจจะมีหินใต้น้ำที่มองไม่เห็น และเป็นอันตรายไม่น้อย คือต้นไม้ หรือกิ่งไม้ที่ล้ม ขวางน้ำ อาจจะส่งผลอันตรายต่อลูกเรือ หรือตัวเรือได้

ร่องน้ำรูปตัววี (downstream V)

สายน้ำจะบีบตัวเข้าหากันเป็นรูปตัววี โดยมีโขดหินสองข้างขวางลำน้ำ ทำให้เกิด เป็นร่องน้ำระหว่างหินนั้น ควรบังคับหัวเรือให้ตรงตามร่องตัววีนั้น แต่อย่างไรก็ตาม นายท้ายเรือจะต้องตัดสินใจในการ แก้ไขสถานการณ์ล่วงหน้าอีกครั้ง เพราะช่องทางที่ดีที่สุดที่เห็นนั้น อาจจะพัดนักผจญแก่งไปกระแทกกับหินก็ได้ร่องน้ำรูปตัววีคว่ำ ที่หันมุมแหลมเข้าหาเรานั้น จะเป็นอันตรายมาก เรืออาจจะกระแทกกับหิน หรือน้ำอาจดูดเข้าไปหา จนทำให้เรือ หรือตัวเรากระแทกกับแก่งหินได้

บนเส้นทางของสายน้ำเชี่ยวที่ไหลผ่านเกาะแก่งลงมา ก็คือ ป่าต้นน้ำอันสมบูรณ์ การเดินทางท่องธรรมชาติในรูปแบบ ของการล่องแก่ง จึงเป็นวิถีแห่งสายน้ำที่นอกเหนือจากภูมิประเทศอันงดงามของธารน้ำ ป่าเขา และสายน้ำตกแล้ว ยังจะ พบกับสภาพธรรมชาติที่น่าสนใจ ตั้งแต่พืชพรรณ นก แมลง ผีเสื้อ และปลา สิ่งเหล่านี้คือคุณค่าของการท่องเที่ยว ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม
ผืนป่าไม้ที่มักปรากฏอยู่สองฝั่งน้ำ มีทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรังรวมทั้งป่าดิบชื้นที่เขียวชอุ่มตลอดปี ซึ่งจะสังเกตเห็น ไม้จำพวกยาง ไทร ตะเคียน สัก ประดู่ ตะแบก หมาก และหวายชนิดต่าง ๆ พืชพรรณไม้ที่เด่นสำหรับป่าเมืองไทยคือ ไม ้ไผ่ ซึ่งมีอยู่หลายชนิด เช่น ไผ่หก ไผ่หนาม ไผ่ซาง เป็นต้น และบนคาคบไม้จะมีพืชอิงอาศัย เช่น กระเช้าสีดา กล้วยไม้ป่า ชนิดต่าง ๆ สำหรับบริเวณชายน้ำ จะพบกับไม้ริมน้ำ เช่น ต้นจิก ไคร้น้ำ ผักกูด ส่วนบริเวณริมผาหินปูนที่เป็นธารน้ำตกจะ เต็มไปด้วยมอส และตะไคร่น้ำ จะมีเฟิร์นก้านดำขึ้นปกคลุม

สายน้ำคือเส้นชีวิตของคนไทยที่ไหลหล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมทั้งประเทศ และที่มาของสายน้ำนั้น มักจะมาจากป่า ดงดิบอันชุ่มชื้น และไหลลงมาจากภูเขาสูงอันก่อให้เกิดธารน้ำที่ไหลแรงและกัดเซาะหุบเขาให้แคบและลึก ไม่มีที่ราบริม ฝั่งน้ำให้เห็นมากนัก ลักษณะหุบเขาในพื้นที่ต้นน้ำจะเป็นรูปตัววี ตามลำน้ำมักจะพบเกาะแก่งขวางอยู่ตามลำน้ำ และสาย น้ำตก สองฝั่งของธารน้ำมักเป็นหินล้วน ๆ ร่องน้ำแคบและตื้น ระดับน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และท้องน้ำมีแต่หินและกรวด เนื่องจากตะกอนละเอียด เช่น ดินและทรายถูกน้ำพัดพาไปหมด

กล้วยไม้ตามแถบน้ำตก

กล้วยไม้รองเท้านารี (Lady’s Slipper) เป็นกล้วยไม้สกุล Paphiopedilum มีชื่อเรียกอื่นๆ อีกหลายชื่อ เช่น รองเท้านาง รองเท้าแตะนารี หรือ บุหงากะสุต ในภาษามาเลเซีย อันหมายถึงรองเท้าของสตรี เนื่องจากกลีบดอก หรือที่เรียกว่า “กระเป๋า” มีรูปร่างคล้ายกับรองเท้าของสตรีและรองเท้าไม้ของชาวเนเธอแลนด์ กระเป๋าของรองเท้านารีมีรูปร่างลักษณะและสีสรรแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์โดยธรรมชาติของกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีทุกชนิด เมื่อออกดอกแล้วก็จะตายไป แต่ก่อนตายจะแตกหน่อทดแทน ซึ่งหน่อนี้ก็จะเจริญงอกงามเป็นต้นใหม่ต่อไป ชนิดพันธุ์ของกล้วยไม้รองเท้านารี ที่สำรวจพบ ได้แก่

รองเท้านารีม่วงสงขลา


รองเท้านารีม่วงสงขลา

Paphiopedilum barbatum

ถิ่นกำเนิดอยู่ที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ลักษณะเด่นของกล้วยไม้พันธุ์นี้ คือ มีลักษณะคล้ายคลึงกับรองเท้านารีฝาหอย แต่ดอกมีสีม่วงเข้มกว่า

รองเท้านารีเหลืองพังงา


รองเท้านารีเหลืองพังงา

Paphiopedilum leucochilum

ค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2435 ถิ่นกำเนิดอยู่บนภูเขาหินปูนแถบฝั่งทะเล ในจังหวัดภาคใต้ ลักษณะเด่น คือ มีลักษณะคล้ายกับรองเท้านารี “เหลืองตรัง” แต่รองเท้านารีเหลืองพังงาจะมีสีครีมออกเหลือง และที่กระเปาะมีจุดประเล็กๆ สีน้ำตาล

รองเท้านารีเหลืองกระบี่


รองเท้านารีเหลืองกระบี่

Paphiopedilum exul

ค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2435 ถิ่นกำเนิดอยู่แถบเกาะพงันจังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะพังงา และจังหวัดชุมพร ลักษณะเด่นของกล้วยไม้พันธุ์นี้ คือ มีใบสีเขียวไม่มีลาย ใบแคบและหนา ผิวเป็นมัน เส้นกลางใบเป็นรอยลึกรูปตัววี ก้านดอกแข็ง ดอกใหญ่ กลีบดอกนอกบนเป็นรูปใบโพธิ์กว้าง สอบตรงปลาย กลีบดอกสีขางไล่จากโคนกลีบ แนวกลางของกลีบเป็นสีเหลืองอมเขียวประด้วยจุดสีม่วง กลีบในสีเหลืองแคบและยาวกว่ากลีบนอก กระเปาะสีเหลืองเป็นมัน

รองเท้านารีสุขะกุล


รองเท้านารีสุขะกุล

Paphiopedilum sukhakulii

ค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2507 ถิ่นกำเนิดอยู่แถบจังหวัดเลยบนยอดภูหลวง กล้วยไม้พันธุ์นี้มีลักษณะเด่น คือ มีลักษณะคล้ายคลึงกับรองเท้านารีคางกบ แต่มีรายละเอียดส่วนต่างๆ ที่แตกต่างกัน ได้แก่ พื้นกลีบสีเขียวมีจุดสีม่วงประปรายทั่วกลีบ ปลายกลีบดอกแหลม พื้นกลีบมีสีทางสีเขียวถี่ๆ ลายทางจากโคนดอกวิ่งไปรวมที่ปลายกลีบ กลีบในกางเหยียด ขอบกลีบมีขนเช่นเดียวกับบริเวณโคนดอก

รองเท้านารีอ่างทอง


รองเท้านารีอ่างทอง

Paphiopedilum angthong

ถิ่นกำเนิดอยู่ตามหมู่เกาะบริเวณอ่าวไทย เช่น หมู่เกาะอ่างทอง เกาะสมุย เป็นต้น ลักษณะเด่นของกล้วยไม้พันธุ์นี้ คือ ปลายใบมน ด้านบนสีเขียวคล้ำประลาย ด้านใต้ท้องใบสีม่วงแก่ ก้านดอกยาวมีขน ดอกค่อนข้างเล็กขนาดไม่สม่ำเสมอ การประจุดกระจายจากโคนกลีบ พื้นกลีบดอกสีขาว กลีบค่อนข้างหนา

รองเท้านารีเหลืองตรัง


รองเท้านารีเหลืองตรัง

Paphiopedilum godefroyae

ค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2419 ขึ้นตามโขดหิน ถิ่นกำเนิดอยู่บริเวณเกาะรัง จังหวัดชุมพร ลักษณะเด่น คือ ใบลาย ท้องใบสีม่วง ปลายมนคล้ายรูปลิ้น ก้านดอกสีม่วงมีขน ดอกโตสีครีมเหลือง กลีบนอกบนรูปกลม ปลายยอดแหลมเล็กน้อย กลีบในสองข้างกลมรี ปลายกลีบเว้า ประจุดลายสีน้ำตาลจางตรงโคนกลีบแล้วค่อยจางออกตอนปลาย ปากกระเปาะขาวไม่มีลาย

รองเท้านารีเมืองกาญจน์


รองเท้านารีเมืองกาญจน์

Paphiopedilum parishii

ค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2402 ถิ่นกำเนิดอยู่แถบจังหวัดกาญจบุรีและกำแพงเพชร เป็นกล้วยไม้อากาศเกาะอยู่ตามต้นไม้มีลักษณะเด่น คือ มีกลีบในคู่บิดเป็นเกลียวเป็นสายยาวกว่ากลีบนอกประมาณสามเท่าตัว

รองเท้านารีเหลืองปราจีน


รองเท้านารีเหลืองปราจีน

Paphiopedilum concolor

ค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2402 มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบอำเภออรัญประเทศ จังหวัดปราจีนบุรี ลักษณะเด่นของกล้วยไม้พันธุ์นี้ คือ มีใบลาย ท้องใบสีม่วง ก้านดอกยาวมีขน อาจมี 2–3 ดอกบนก้านเดียวกันได้ กลีบดอกด้านบนผายออกคล้ายพัด ปลายมนสูง กลีบในกางพอประมาณ เมื่อดอกบานจะคุ้มมาข้างหน้าแลดูคล้ายดอกบานไม่เต็มที่ พื้นดอกสีเหลืองอ่อน มีประจุดเล็กๆ สีม่วงประปราย กระเปาะสีเดียวกับกลีบดอก ปลายกระเปาะค่อนข้างเรียวแหลมและงอนปลายเส้าเกสรเป็นแผ่นใหญ่

รองเท้านารีอินทนนท์


รองเท้านารีอินทนนท์

Paphiopedilum villosum

เป็นพันธุ์กล้วยไม้ที่พบเมื่อ พ.ศ. 2396 มีถิ่นกำเนิดอยู่บริเวณแถบที่มีอากาศชื้นและอุณหภูมิต่ำ เช่น ดอยอินทนนท์ และภูเขาสูง ลักษณะของกล้วยไม้พันธุ์นี้ คือ มีใบสีเขียวสม่ำเสมอทั้งใบ ไม่มีลาย โคนใบส่วนใกล้กับเหง้ามีจุดสีม่วงประปราย และค่อยๆ จางหายตรงส่วนปลายใบ ใบยาวบางและอ่อน เป็นรองเท้านารีที่มีเกสรตัวผู้ต่างจากชนิดอื่นคือ เกสรตัวผู้จับตัวรวมเป็นก้อนแข็งค่อนข้างใส มีสีเหลืองไม่เป็นยางเหนียว

น้ำตกโลก

น้ำตกอีกวาซู


น้ำตกอีกวาซู (Iguazu Falls) คำว่าอีกวาซู แปลว่า "สายน้ำอันยิ่งใหญ่" เป็นคำมาจากภาษากวารานี (Guarani)ชาวอินเดียนแดงเผ่าดั้งเดิม น้ำตกอีกวาซูตั้งอยู่บริเวณรอยต่อพรมแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศอาร์เจนตินา เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ และขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลกโดยใหญ่กว่าน้ำตกไนแอการาประมาณ 30 เท่า อย่างไรก็ตามขนาดของน้ำตกใกล้เคียงกับน้ำตกวิกตอเรียในทวีปแอฟริกาน้ำตกอีกวาซูเกิดจากแม่น้ำอีกวาซูซึ่งไหลมาจากที่ราบสูงปารานา ตกจากขอบที่ราบสูงขนาดใหญ่ลงสู่พื้นที่ราบต่ำกว่า จึงกลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่เป็นแนวยาวกว่า 4 กิโลเมตร สูงกว่า 269 ฟุต ประกอบด้วยน้ำตกน้อยใหญ่อีก 275 แห่ง ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมีนาคมปริมาณน้ำมีมากถึงกว่า 13.6 ล้านลิตรต่อวินาที แต่ในช่วงฤดูร้อน คือระหว่างเมษายนถึงเดือนตุลาคม ปริมาณน้ำจะลดลงเหลือ 2.3 ล้านลิตรต่อวินาที บริเวณรอบ ๆ น้ำตกจะเกิดละอองน้ำอยู่ตลอดเวลาและมีเสียงดังไปไกลกว่า 24 กิโลเมตร บนฝั่งประเทศบราซิลจะมองเห็นน้ำตกได้ทั่วถึงและงดงาม แต่ทางฝั่งประเทศอาร์เจนตินาสามารถเข้าชมน้ำตกได้ใกล้กว่า

น้ำตกวิกตอเรีย


น้ำตกวิกตอเรีย (Victoria Falls) โมซิ-โอวา-ทุนยา (Mosi-oa-Tunya)หรือน้ำตกวิกตอเรียตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของประเทศแซมเบีย กับ ประเทศซิมบับเว เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ถูกค้นพบครั้งแรกโดย ดร.เดวิด ลิฟวิงสโตนในปี ค.ศ. 1855 เพื่อเป็นเกียรติแก่พระราชินีวิกตอเรีย น้ำตกวิกตอเรียเกิดจากแม่น้ำซัมเบซีซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนของสองประเทศ ตกลงมาสู่แอ่งลึก ซึ่งน้ำตกมีขนาดกว้างกว่า 1690 เมตร สูงประมาณ 60-100 เมตร

น้ำตกไนแอการา


น้ำตกไนแอการา (อังกฤษ: Niagara Falls ; ฝรั่งเศส: les Chutes du Niagara) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่หลายแห่งประกอบกัน ตั้งอยู่บนแม่น้ำไนแอการาทางตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ บนพรมแดนระหว่างประเทศแคนาดากับสหรัฐอเมริกา น้ำตกไนแอการาประกอบด้วยน้ำตกสามแห่งที่แยกออกจากกัน คือ น้ำตกเกือกม้า (Horseshoe Falls บางครั้งก็เรียก น้ำตกแคนาดา) สูง 158 ฟุต, น้ำตกอเมริกาสูง 167 ฟุต, และน้ำตกขนาดเล็กกว่าที่อยู่ติดกัน คือน้ำตก Bridal Veil. แม้น้ำตกไนแอการาจะไม่สูงอย่างโดดเด่น แต่ก็กว้างมากน้ำตกไนแองการามีจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของทั้ง 2 ประเทศมานานกว่าศตวรรษแม่น้ำไนแอการาไหลมาจากทะเลสาบอีรีไหลผ่านน้ำตกไนแอการาลงสู่ทะเลสาบออนตาริโอ เมืองสองฝั่งของน้ำตกในสองประเทศนั้นเป็นเมืองแฝด โดยในฝั่งแคนาดาคือ ไนแอการาฟอลส์ ออนตาริโอ ส่วนในฝั่งสหรัฐอเมริกาคือ ไนแอการาฟอลส์ มลรัฐนิวยอร์ก

น้ำตกเอนเจล


น้ำตกเอนเจล (Angel Falls) น้ำตกเอนเจลตั้งอยู่กลางป่าดงดิบในประเทศเวซุเอลา เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในโลก สูงกว่าน้ำตกไนแอการา 18 เท่า มีความสูงกว่า 979 เมตร ซึ่งผู้ที่จะเข้าชมน้ำตกสามารถเข้าไปโดยทางเรือและเครื่องบินเท่านั้น ซึ่งชื่อน้ำตก มาจากนักบินชาวอเมริกัน จิมมี เอนเจล ผู้ค้บพบน้ำตกเป็นคนแรก เมื่อปี ค.ศ. 1935

ทีลอซู .. เป็นภาษากะเหรี่ยง ความหมายคือ น้ำตกอันยิ่งใหญ่ ซึ่งน้ำตกแห่งนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ มีความสูง 200-300 เมตร สวยงามติดอันดับโลกทีเดียว น้ำตกทีลอซูอยู่ในเขตความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อ.แม่สอด ระยะทางห่างจากกรุงเทพ 668 ก.ม. ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 เส้นทางสายเอเชีย จนถึง อ.เมือง จ.ตาก แล้วแยกเข้าสู่ อ.แม่สอด ตามเส้นทางหมายเลข 105 ซึ่งเป็นทางขึ้นลงเขาสลับกันไปเป็นระยะทาง 80 ก.ม. จนถึง อ.แม่สอด จากนั้นมุ่งสู่เส้นทางหมายเลข 1090 เป็นเส้นทางคดเคี้ยวกว่า 1,219 โค้ง ไปตามถนนลอยฟ้า เป็นเทือกเขาสูงชัน ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. จะถึงอุ้มผาง ซึ่งการจะไปยังน้ำตกทีลอซู นักท่องเที่ยวมักล่องเรือยาง ไปตามลำห้วยแม่กลอง นั่งชมธรรมชาติสองข้างทาง ผ่านจุดเด่นๆ เช่น น้ำตกทีลอจ่อ บ่อน้ำร้อน ผาเลือด ล่องธรรมชาติอีก 3-4 ชม. ก็ถึงท่าทราย ซึ่งจะเป็นจุดต่อไปยังน้ำตกทีลอซู เป็นระยะทางอีกประมาณ 12 ก.ม. ถ้าเป็นช่วงเดือน พ.ย. - พ.ค. สามารถเดินทางโดยรถขับเคลื่อนสี่ล้อได้ถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางจากนั้นเดินเท้าเข้าไปยังน้ำตกอีกประมาณ 1.8 ก.ม. ก็จะถึงน้ำตกทีลอซู

ช่วงที่เหมาะแก่การไปทีลอซู


ไปน้ำตกทีลอซูช่วงไหนดีสุด-ไปช่วงต้นฝน มิ.ย. - ก.ค. สภาพเส้นทางที่ล่องเรือยางสวยมาก ต้นไม้เพิ่งออกใบใหม่สีเขียวสดป่าสวย น้ำตกพองาม-ไปช่วงกลางฝน ส.ค. - ต.ค. น้ำเยอะดี น้ำตกเต็มหน้าผา แต่ต้องเดินเข้าไป คนก็ไม่ค่อยมีเพราะไม่อยากเดิน-ไปช่วงหมดฝน พ.ย. - ธ.ค. สบายๆ ไม่ต้องเดิน นั่งรถถึงจุดพักแรม คนเยอะแต่น้ำเริ่มลดลง-ไปช่วงหนาวจนถึงเข้าหน้าร้อน ม.ค. - เม.ย. น้ำใสดี คนก็น้อย แต่น้ำก็น้อยนะ

การเดินทาง



การเดินทางสามารถทำได้ทั้งทางรถยนต์และโดยการล่องแพ เส้นทางรถยนต์นั้นให้ใช้เส้นทาง อุ้มผาง-แม่กลอง ใหม่-แม่จัน ถึงกิโลเมตรที่ 20 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางอีกประมาณ 26 กิโลเมตร ทางช่วงนี้ เป็นทางลำลอง จะต้องใช้รถปิคอัพ หรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เท่านั้น และในฤดูฝนรถอาจเข้าไม่ได้ หรืออาจ ติดต่อ บริษัททัวร์ที่จัดล่องแพในอำเภออุ้มผาง ซึ่งมักจะรวมโปรแกรมเที่ยวน้ำตกทีลอซูอยู่ด้วย

วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2551


น้ำตกเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ ของผืนป่า ตาน้ำเล็ก ๆ ที่ซึมขึ้นมาจากพื้นดิน ค่อย ๆ ไหลรวมกันเป็นธารน้ำ ผ่านพื้นที่ต่างระดับ แผ่กว้างเป็นม่านน้ำสีขาว ตกลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง เป็นธารน้ำใสที่ให้ความชุ่มชื่นแก่สิ่งมีชีวิตในป่า และรวมตัวกันเป็นสายน้ำ ใหญ่มาหล่อเลี้ยงผู้คนให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ หากน้ำตกเหือดแห้งไป เพราะสาเหตุที่ป่าไม้ถูกทำลาย ไม่มีต้นไม้ที่ ช่วยดูดซับน้ำ พื้นดินแห้งแล้ง ตาน้ำที่เคยไหลรินอยู่ ตลอดมาก็จะพลอยแห้งหายไปด้วย ขอให้เยาวชนรุ่นใหม่ที่มีแต่ความห่วงใยธรรมชาติ ช่วยกันดูแลรักษาป่า อันเป็นต้นน้ำลำธารไว้ เพื่อเราจะได้มีน้ำตกสวยๆ ให้น้องๆ รุ่นหลังชื่นชม และให้เป็นสมบัติของโลกสืบไป
น้ำ...จากแหล่งสะสมน้ำใต้ดินบนภูเขาสูง ไหลมารวมตัวกันเป็นธารน้ำ และจากธารน้ำ ในหลายพื้นที่มารวมกันก็กลายเป็นสายธารขนาดใหญ่ ไหลลงสู่ผืนแผ่นดินที่ต่ำกว่า ซึ่งจะมีพลังการไหลที่รุนแรง มีการกัดเซาะในแนวดิ่ง และยังมีผลจากการที่สายน้ำไหล ผ่านผืนดินและแผ่นหินที่มีความแข็งแกร่งไม่เท่ากัน โดยพื้นดินจะถูกกัดเซาะออกไปก่อน จากนั้นพื้นหินที่มีโครงสร้างอ่อน ก็จะถูกกัดเซาะให้สึกกร่อนเป็นร่องลึกกว่าพื้นหินที่มีโครงสร้างแข็ง เมื่อเวลาผ่านไปจึงเกิดเป็นผาน้ำตกที่สูงชัน หรือลุ่มลึก โดยบริเวณ ตอนล่างของน้ำตกจะเกิดเป็นแอ่งลึกที่เรียกว่า แอ่งฐานน้ำตก (Plunge-Pool) ความงดงามและความแตกต่างกันของน้ำตกแต่ละแห่งนั้น จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น โครงสร้างของผาหินที่ แตกต่างกัน โดยน้ำตกที่เกิดขึ้นบริเวณลานหินหรือผาหินแกรนิต จะมีลักษณะสูงใหญ่ ไหลตกลงมาจากผาดิ่งชัน ผาหินมักมีความมันวาว เช่น น้ำตกแม่ยะ น้ำตกวชิรธาร น้ำตกแม่กลาง บนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ น้ำตกคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร

น้ำตกสุริน จังหวัดแม่ฮองสอน


เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมาก ลักษณะของสายน้ำจะไหลจากหน้าผาสูงดิ่งลงสู่หุบเบื้องล่าง ประมาณ 200-300 เมตร น้ำตกจะอยู่ระหว่างหุบเขา เมื่อยืนจากจุดชมวิวทางด้านอุทยานฯ ก็สามารถมองเห็นสายน้ำ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน ทางอุทยานฯ ได้สร้างศาลาชมวิวไว้บนยอดดอย สามารถชมความงดงามของ น้ำตกได้สะดวก นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปชมน้ำตกแม่สุรินนั้น ควรเดินทางไปในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม เพราะจะได้ชมดอกบัวตองบานสะพรั่งบนดอยแม่อูคอ ซึ่งเป็นทางผ่าน หรือจะตั้งค่ายพักแรมกันที่ดอยแม่อูคอ และ ใช้เวลาในช่วงกลางวันเดินทางเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกแม่สุริน ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากทุ่งบัวตองประมาณ 11 กิโลเมตร ในช่วงเทศกาลดอกบัวตองบานนั้น ทางอำเภอขุนยวมจะจัดพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ สร้างห้องน้ำและมีร้าน อาหารบริการแก่นักท่องเที่ยวด้วย

น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก


น้ำตกทีลอซูอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ในผืนป่า ตะวันตก ต้นน้ำเกิดจากห้วยกล้อท้อ ซึ่งเป็นลำน้ำใหญ่ในป่าอันอุดมสมบูรณ์บริเวณรอยต่อชายแดนไทย-พม่า มี ปริมาณน้ำมากมายมหาศาล และด้วยโครงสร้างของน้ำตกที่ไหลจากผาหินปูน ทำให้น้ำตกทีลอซูมีจำนวนชั้นลด หลั่นกันมากมายหลายชั้น นอกจากความยิ่งใหญ่และความสวยงามแล้ว ระยะทางและสภาพเส้นทางที่ยากลำบาก ก็เป็นสิ่งที่ท้าทายให้ผู้คนจำนวนมากอยากเข้าไปสัมผัส สภาพทั่วไปของป่าดงดิบที่ปกคลุมไปด้วยพืชพันธุ์เขียวขจี ยังคงความเป็นธรรมชาติที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง ไทย จากบริเวณที่ทำการเขตรักษาพันสัตว์ป่าอุ้มผาง อันเป็นเส้นทางวิบากที่ตัดเข้าสู่บริเวณน้ำตกนั้น จะต้องเดินป่า อีกราว 2 กิโลเมตร ไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร และบริการใด ๆ นอกจากเสียงของสายน้ำและลมเท่านั้น ตามปรกติแล้วพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะไม่อนุญาตให้เข้าไปท่องเที่ยว แต่ทางกรมป่าไม้ได้อนุโลมให ้เข้าไปศึกษาธรรมชาติได้ และกำหนดกฎเกณฑ์การเข้าไปเที่ยวชม นักท่องเที่ยวจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติอันเปราะบางด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ นักท่องเที่ยวทุกคนต้องขออนุญาตก่อน โดยผ่านการประทับตรา สป.7 จากกรมป่าไม้ (ติดต่อผ่านชมรมส่ง เสริมการท่องเที่ยวและอนุรักษ์อุ้มผาง ตั้งอยู่ที่กิโลเมตรที่ 163 ถนนแม่สอด-อุ้มผาง ตรงข้ามโรงเรียนอุ้มผาง พิทยาคม) ซึ่งทางกรมป่าไม้มีสิทธิ์ที่จะอนุญาตหรือไม่ก็ได้ โดยจะคำนึงถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่พื้นที่สามารถรอง รับได้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปโดยไม่ขออนุญาตล่วงหน้า หรือเดินทางไปกันมาก ๆ ในช่วงวันหยุดเทศกาลต่าง ๆ อาจจะต้องผิดหวัง

น้ำตกห้วยขมิ้น จังหวัดกาญจนบุรี


ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เขื่อนศรีนครินทร์ ริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียง ของจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยสภาพของโครงสร้างผาน้ำตกที่เป็นหินปูน ทำให้ลีลาการไหลของน้ำงดงาม เป็นเชิงชั้น เล็ก ๆ ลดหลั่นลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง แบ่งออกเป็น 7 ชั้นใหญ่ ๆ ด้วยกัน โดยแต่ละชั้นมีชื่อเฉพาะ เช่น ม่านขมิ้น วัง หน้าผา ฉัตรแก้ว ไหลจนหลง ดงผีเสื้อ และร่มเกล้า รอบข้างร่มรื่นด้วยพรรณไม้ป่านานาชนิด มีทางเดินเท้าสำหรับ ขึ้นไปชมน้ำตกแต่ละชั้น ช่วงที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวคือ เดือนตุลาคม ถึงธันวาคม จากน้ำตกชั้นล่างสุดลงมายังบริเวณริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ ทางอุทยานฯ ได้จัดสร้างบ้านพักรับรองนัก ท่องเที่ยวเป็นเรือนแพริมทะเลสาบด้วย

น้ำตกเหวนรก จังหวัดนครนายก


น้ำตกเหวนรก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทางด้านอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก เป็นน้ำตกขนาด ใหญ่ที่สุดของภาคกลางเลยก็ว่าได้ ด้วยสภาพผืนป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นแหล่งต้น น้ำลำธารของคลองสมอปูนและสายธารเล็ก ๆ อีกหลายสาย ไหลมารวมเป็นธารน้ำตกเหวนรก ซึ่งไหลตกลงจากผา สูงดิ่งชันราว 90 องศา เป็น 3 ชั้นใหญ่ ๆ ด้วยกัน โดยชั้นแรกมีความสูงราว 60 เมตร และไหลลงไปสู่ผาน้ำตกชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 มีความสูงรวมกันกว่า 100 เมตร ตกลงสู่หุบธารที่ขนาบด้วยผาสูงชันรูปตัว V ความสูงชัน ของผาน้ำตกกับปริมาณของน้ำมากมายมหาศาล ทำให้สายน้ำไหลตกลงกระทบแผ่นผาเบื้องล่าง เกิดเสียงดังสนั่น ก้องไปทั้งหุบเขา และเกิดละอองไอลอยคลุมไปทั่วบริเวณนั้น ดูลึกลับน่าเกรงขาม จนผู้คนขนานนามว่า "น้ำตกเหวนรก" นอกจากน้ำตกเหวนรกแล้ว บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ยังมีน้ำตกสวยงามอีกหลายแห่งให้เที่ยวชมกัน เช่น น้ำตกเหวสุวัต ซึ่งตั้งอยู่สุดถนนธนะรัชต์ น้ำตกผากล้วยไม้ น้ำตกเหวไทร และน้ำตกเหวประทุน เป็นต้น

น้ำตกขุนพอง จังหวัดเลย


เป็นน้ำตกที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง และเป็นน้ำตกใหญ่ที่สุดบนภูกระดึง อยู่ทางทิศตะวันตก เกิดจาก ลำธารหลายสายที่ไหลมารวมกัน ได้แก่ วังกวาง ธารสวรรค์ ธารพระองค์ และธารถ้ำสอ เป็นน้ำตกที่อยู่ในป่าดงดิบ ในส่วนของป่าปิด จึงเที่ยวได้เฉพาะช่วงฤดูแล้งเท่านั้น คือตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนมิถุนายน และ ต้องทำเรื่องขออนุญาตพร้อมขอเจ้าหน้าที่นำทางด้วย การเดินเท้าเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกจะต้องเดินผ่านป่าสนและป่า ดงดิบ ระยะทางราว 10 กิโลเมตร ในช่วงฤดูหนาว ต้นเมเปิลจะเปลี่ยนสีใบจากเขียวเป็นแดง ร่วงหล่นทั่วบริเวณน้ำตก อันเป็นที่มาของภาพงดงามซึ่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของภูกระดึง โดยเมเปิลจะเปลี่ยนสีและผลัดใบในช่วงต้น เดือนธันวาคม นอกจากน้ำตกขุนพองแล้ว บนที่ราบยอดภูกระดึงยังมีน้ำตกอื่น ๆ ให้เที่ยวชมอีกหลายแห่งด้วยกัน เช่น น้ำตกวัง กวาง น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกโผนพบ และน้ำตกหงษ์ทอง เป็นต้น น้ำตกเหล่านี้ มีความ สวยงาม มีธารน้ำใสเย็นและปลอดภัยในการลงเล่นน้ำ นักท่องเที่ยวควรมีเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวบนภูกระดึง อย่างน้อย 3 วัน จึงจะคุ้มค่ากับการเดินฝ่าความสูงชันขึ้นไป และหากจะเดินทางไปเพื่อชมน้ำตก ควรไปในช่วงหลัง ฤดูฝน คือประมาณเดือนตุลาคมถึงธันวาคมเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นน้ำตกจะไม่ค่อยมีน้ำ อุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะปิดช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายนทุกปี เพราะการเดินทางค่อนข้าง ลำบาก และเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัวกลับมาสดชื่นอีกครั้งหนึ่ง

น้ำตกเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี


อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว แบ่งออกเป็น 15 ชั้น บริเวณธารน้ำตกมีผีเสื้อจำนวนมากมาย เหมาะ สำหรับการดูผีเสื้อและศึกษาพรรณไม้ ซึ่งพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวนั้น มีสภาพป่าดงดิบที่สมบูรณ์และ ยังคงเป็นธรรมชาติ สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน โดยมียอดเขาสูง 2 ยอด คือ ยอดสอยดาวเหนือและสอย ดาวใต้ ความสูงของยอดสอยดาวใต้สูงประมาณ 1,556 เมตร จากระดับน้ำทะเล สภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์เป็นต้น กำเนิดของธารน้ำหลายสาย ไหลตกลงมาเป็นน้ำตกเขาสอยดาวขนาดใหญ่ ท่ามกลางป่าลึกที่ยังคงความเป็น ธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าเข้าไปชม โดยจะต้องมีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเป็นผู้นำทางเข้าไป ตลอดเส้นทางเดินชมน้ำตกมีทั้งความงามและความตื่นเต้นท้าทาย เช่น ชั้นน้ำตกที่ต้องปีนผาไปตามรากไทรสูงราว 20 เมตร กระทั่งถึงน้ำตกชั้นบนสุด ซึ่งมีขนาดสูงใหญ่สวยงาม

น้ำตกแม่สุริน จังหวัดแม่ฮองสอน


เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมาก ลักษณะของสายน้ำจะไหลจากหน้าผาสูงดิ่งลงสู่หุบเบื้องล่าง ประมาณ 200-300 เมตร น้ำตกจะอยู่ระหว่างหุบเขา เมื่อยืนจากจุดชมวิวทางด้านอุทยานฯ ก็สามารถมองเห็นสายน้ำ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน ทางอุทยานฯ ได้สร้างศาลาชมวิวไว้บนยอดดอย สามารถชมความงดงามของ น้ำตกได้สะดวก นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปชมน้ำตกแม่สุรินนั้น ควรเดินทางไปในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม เพราะจะได้ชมดอกบัวตองบานสะพรั่งบนดอยแม่อูคอ ซึ่งเป็นทางผ่าน หรือจะตั้งค่ายพักแรมกันที่ดอยแม่อูคอ และ ใช้เวลาในช่วงกลางวันเดินทางเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกแม่สุริน ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากทุ่งบัวตองประมาณ 11 กิโลเมตร ในช่วงเทศกาลดอกบัวตองบานนั้น ทางอำเภอขุนยวมจะจัดพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ สร้างห้องน้ำและมีร้าน อาหารบริการแก่นักท่องเที่ยวด้วย

น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี


น้ำตกที่มีชื่อของจังหวัดจันทบุรี อยู่ในเขตเทือกเขาสระบาป อำเภอแหลมสิงห์ ทางเดินเข้าน้ำตกร่มรื่นด้วย พรรณไม้ เป็นน้ำตกที่เข้าถึงได้สะดวก น้ำใส เหมาะกับการลงเล่นน้ำ และปลอดภัยเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ก่อนถึงตัวน้ำตกจะมีแอ่งน้ำธรรมชาติ เป็นที่อาศัยของปลาพลวง ซึ่งจะพบเฉพาะตามลำธารน้ำตกบางภาคเท่านั้น น้ำตกพลิ้วมี 3 ชั้น จากทางขึ้นไป 200 เมตร จะเห็นอลงกรณ์เจดีย์อยู่ทางขวามือ เป็นเจดีย์ศิลาแลงซึ่งรัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างไว้ ส่วนทางซ้ายมีสถูปพระนางเรือล่ม อันเป็นที่บรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าสุนันทากุมารี รัตน์ พระบรมราชเทวี สถูปและอลงกรณ์เจดีย์นี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดฯ ให้สร้างขึ้น เนื่องจากพระองค์เคยเสด็จประพาส เมื่อ พ.ศ. 2417 และทรงชื่นชมโสมนัสในความงดงามของน้ำตกแห่งนี้เป็น อย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเที่ยวชมน้ำตกพลิ้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป เพราะเป็นช่วงฤดูผลไม้ของ จังหวัดจันทบุรี นอกจากได้ชื่นชมความงดงามของน้ำตกแล้ว ยังได้ชิมผลไม้มีชื่อของจังหวัดด้วย

น้ำตกกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช


น้ำตกกรุงชิง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งผืนป่าใน เขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวงนั้นนับเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ มีพื้นที่ทั้งสิ้น 570 ตารางกิโลเมตร โดยมียอดเขาหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของภาคใต้ มีความสูงประมาณ 1,835 เมตร จากระดับน้ำทะเล ด้วยความเป็นป่าสมบูรณ์จึงเป็นต้นน้ำลำธารที่สำคัญของคลองกรุงชิง คลองเขาแก้ว คลองท่าแพ เป็นต้น และก่อเกิดน้ำตกขนาดใหญ่มากมายหลายแห่ง เช่น น้ำตกกรุงชิง น้ำตกพรหมโลก น้ำตกกะโรม น้ำตกอ้ายเขียว โดยมี น้ำตกกรุงชิง เป็นน้ำตกที่งดงามและยังคงความเป็นธรรมชาติที่สุด ชื่อกรุงชิงมาจาก "ต้นชิง" พันธุ์ไม้ตระกูลปาล์ม ซึ่งมีมากในบริเวณนั้น การเข้าไปชมน้ำตกกรุงชิง จะต้องเดิน เท้าจากที่ทำการหน่วยอุทยานฯ ผ่านเส้นทางเดินป่าอันสมบูรณ์ ระยะทาง 3.8 กิโลเมตร เข้าไปถึงธารน้ำตกชั้นที่สวย งามมากที่สุดมีชื่อว่า "หนานฝนแสนห่า" สายน้ำตกจากหน้าผาสูงชันประมาณ 80 เมตร กระแสน้ำแผ่เป็นผืนกว้าง กระจายออกเป็นละอองเหมือนฝน ไม่จับกันเป็นเกลียวเหมือนน้ำตกทั่วไป จึงเป็นที่มาของชื่อดังกล่าว การเดินทางไป ชมน้ำตกชั้นนี้ต้องปีนป่ายลงไปตามขอบผาริมลำธารและบางช่วงต้องผ่านหุบเหวและป่าดิบที่ดิ่งชัน

น้ำตกเอราวัล จังหวัดกาญจนบุรี


น้ำตกใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่ง อยู่บนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ หรือที่ชาวบ้านเรียก กันว่า "อุทยานแห่งชาติเขาสลอบ" สายธารน้ำตกเอราวัณมีความยาว 2,000 เมตร จากชั้นบนสุดถึงชั้นล่างสุด ไหล ลดหลั่นกันลงมาท่ามกลางผืนป่าอันเขียวขจี แบ่งเป็นชั้นใหญ่ ๆ ได้ทั้งหมด 7 ชั้น โดยจากลานจอดรถ มีทางเดินเท้า เข้าสู่บริเวณน้ำตก เป็นเส้นทางเดินท่ามกลางผืนป่าที่ร่มรื่นและเป็นธรรมชาติ ทางอุทยานฯ ได้จัดเส้นทางไว้อย่างด ีเยี่ยมและไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปในบริเวณน้ำตก เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดและความเป็นธรรมชาติเอาไว้ ประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงน้ำตกชั้นแรก ด้วยโครงสร้างของผาหินปูน น้ำตกเอราวัณ จึงเป็นน้ำตกที่มีลีลาการริน ไหลอ่อนช้อยงดงาม นักท่องเที่ยวควรเดินอยู่บนทางเดินที่ทางอุทยานฯ จัดไว้ให้เท่านั้น เมื่อเดินสูงขึ้นไปจนถึง น้ำตกชั้นที่ 7 หรือชั้นบนสุด ซึ่งธารน้ำจะแยกตกลงมาเป็น 2 สาย สีขาวของสายน้ำที่ตกลงมาจากผาสูงเมื่อมองไกล ๆ จะมีลักษณะคล้ายงาของช้างและหัวของช้างที่ยื่นเดินออกมาจากภูผา จึงได้ชื่อว่า "น้ำตกเอราวัณ"

น้ำตกสวยงาม


น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ มีความสวยงามติดอันดับหนึ่งในสิบยอดน้ำตกของ ประเทศไทย สายน้ำจะไหลลงมาตามหน้าผาสูงชันราว 280 เมตร กระทบโขดหินเป็นชั้น ๆ เหมือนม่านน้ำ แล้วไหลลงไปรวมกันที่แอ่งน้ำใสเบื้องล่าง สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย รอบ ๆ บริเวณเป็นป่าเขาร่มรื่นเงียบสงบ ปริมาณน้ำมากมายมหาศาลของน้ำตกแม่ยะ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนั้น เกิดจากต้นน้ำในผืนป่าสูงบนยอดดอยอิน ทนนท์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทย นอกจากน้ำตกแม่ยะแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปเที่ยวชม ความงดงามของน้ำตกอื่น ๆ บนดอยอินทนนท์ได้อีก รวมทั้งศึกษาธรรมชาติในป่าดึกดำบรรพ์บริเวณอ่างกาหลวง ซึ่งทางอุทยานฯ ได้จัดเส้นทางไว้ให้